Friday, 6 December 2024

ทำไมโนเกียถึงตัดสินใจทำ Nokia X?

ผมว่าข่าวใหญ่ที่สุดในรอบวัน (และในรอบสัปดาห์) ของวงการไอทีอย่างหนึ่งคือการเปิดตัว NokiaX ที่เป็นมือถือจากโนเกียที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android รุ่นที่ปรับแต่งแล้ว ที่ต้องถือเป็นข่าวใหญ่นั่นก็เพราะว่า โนเกีย เคยแสดงท่าทีออกมาชัดเจนว่าการใช้แอนดรอยด์เป็นเพียงแนวทางระยะสั้น อีกทั้งต้องไม่ลืมว่าดีลไมโครซอฟท์ซื้อส่วนอุปกรณ์มือถือของโนเกีย ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ค้ำคออยู่เช่นกัน

ถามว่าทำไม NokiaX ถึงเกิดขึ้น? ผมคิดว่าภาพนี้อาจจะช่วยตอบคำถามได้บางส่วนพอสมควร

ภาพจาก conversations.nokia.com

นั่นเพราะในตลาดระดับกลางค่อนล่างที่ผ่านมา Nokia เองไม่มีคู่ต่อกรที่ดีเลย อีกทั้งจากในงานเปิดตัว Elop ย้ำอยู่หลายรอบว่า NokiaX จะเป็นประตูเปิดทางให้กับผู้ใช้จำนวนมากได้เข้าถึงบริการของไมโครซอฟท์ ซึ่งนี่เป็นประเด็นสำคัญที่สุด ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา Windows Phone มีปัญหาในแง่ข้อจำกัดด้านสเปคพอสมควร การจะเอา Snapdragon 600 มาขายในระดับราคาที่ Snapdragon 200 กำลังครองตลาดอยู่คงไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ถึงแม้ว่าในงาน MWC ปีนี้ เราได้เห็นทิศทางที่ดีขึ้นของไมโครซอฟท์ในการพยายามทำให้เข้าถึงมือถือได้หลายรุ่นมากขึ้น จากการแถลงข่าวที่ระบุว่าในรุ่น 8.1 ของ Windows Phone จะต้องการสเปคที่ต่ำลง

นอกจากนั้นแล้ว ถ้าเราฟังการแถลงข่าวดีๆ จะพบว่าแนวคิดและยุทธศาสตร์ของ NokiaX คือตัวรองจาก Lumia ที่แน่นอนว่าในอนาคต Lumia จะมีราคาถูกลงเรื่อยๆ (และเรื่องเช่นนี้ก็ไม่แปลก เราเริ่มเห็นร้านขายส่งมือถือบางเจ้าลดราคา 520 เหลือแค่ 3,710 บาทกันแล้ว) ดังนั้นพื้นที่ของ ASHA ก็จะหายไป เรียกว่ามันคืออนาคตของกลุ่มตลาด ASHA ก็อาจจะบอกได้อย่างนั้น ผสมกับ ASHA เอง ยังไม่มีบริการของไมโครซอฟท์ที่สำคัญเลย ทางลัดที่ดีที่สุดและง่ายที่สุดคือการนำเอา AOSP มาดัดแปลง เปลี่ยน UX/UI มัน แล้วส่งบริการของไมโครซอฟท์อัดไปให้เต็มที่ ซึ่งการทำแบบนี้นอกจากได้สร้างข้อได้เปรียบในเชิงความพร้อมรองรับแอพแอนดรอยด์จำนวนมากแล้ว ยังเป็นการเปิดทางไปสู่ Lumia ด้านบนด้วย เพราะในที่สุดมันจะเหมือน Kindle Fire ที่วิธีการใช้แทบจะไม่มีเค้าลางของความเป็น Android แม้แต่น้อย

แต่ผมกลับมองต่างจากพี่มาร์ค (mk) ในบทวิเคราะห์ของแก (ไปตามอ่านกันได้ที่นี่) ที่แกมองว่า Nokia X จะเข้ามาแทนที่ ASHA ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีโอกาสเป็นไปได้สูง แต่ในแง่มุมกลับเองผมมองว่า ASHA ที่เป็นกึ่ง feature phone จะถูกผลักลงไปแทนที่มือถือพวก basic phone ทั้งหลาย เพราะปัจจุบันนี้ด้วยราคาที่เกือบจะเท่าๆ กัน พวก basic phone แทบจะไม่มีที่ยืนในตลาดแล้ว ต้องลงไปเล่นในตลาด 500-700 บาท กันหมด เพราะการ ‘touch’ มันเป็นรูปแบบที่อาจจะเรียกได้ว่า เป็นสากลที่สุดแล้วสำหรับการใช้ smartphone ณ เวลานี้ (ขนาด Firefox OS ยังพยายามทำโดยจะกดราคาเครื่องให้ไม่เกิน 900 บาทเลย) และในที่สุด basic phone/feature phone พวกนี้ก็จะถูกแทนที่ด้วย ASHA ไป ในแง่นี้ ASHA น่าจะยังอยู่ แต่ก็จะอยู่แบบตลาดล่างสุดๆ ไปแทน อาจจะกล่าวว่ามันอาจจะเอาไว้แข่งกับ Firefox OS

อีกคำถามหนึ่งคือทำไมต้องมี X+ ผมคิดว่าปัญหาของ Android คือเรื่องการจัดการหน่วยความจำ (ปัญหาคาราคาซัง) คือเชื่อว่ามีคนไม่น้อยที่ยินดีจะซื้อ Nokia X แต่ปัญหาคือ Nokia X มีแรมแค่ 512 ซึ่งหลายคนถ้าจะซื้อ คงยอมจ่ายเพิ่มอีกนิดเพื่อให้ได้แรมที่มากขึ้น ในกรณีที่ไม่อยากได้มือถือที่ช้า X+ จะเป็นทางออกให้กับคนกลุ่มนี้ พูดง่ายๆ คือ คนที่อยากได้มือถือ แต่เน้นเรื่องมากกว่าฟังเพลง ฟังวิทยุ เข้าเน็ตธรรมดา คนกลุ่มนี้มีเยอะพอสมควร คือ เป้าหมายชัดเจนว่าอยากได้มือถือที่ตอบโจทย์ด้านมัลติมีเดีย แต่ไม่ใช่ในด้านความเร็วหรือความแรง เพราะถ้าอยากได้ดีกว่า ก็เอา XL ไปเลย

ทั้งหมดก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าที่สุดแล้วจะสำเร็จแค่ไหน แต่ผมเชื่อว่า Nokia X จะไม่เกิดเลย ถ้าไมโครซอฟท์ ยอมลดความต้องพื้นฐานของระบบใน Windows Phone 8 ให้ต่ำกว่านี้ตั้งแต่แรก

ปล. ส่วนตัวว่าจะซื้อมาลง Ingress แล้วทดสอบดูว่าจะทำอะไรได้แค่ไหน เพราะเชื่อว่า xda คงมีคนจ้องจะสอยและพอร์ตสารพัดรอมมาลงแน่

เรื่องแนะนำ

ใช้ GCP f1-micro รันเว็บไซต์ส่วนตัวฟรีๆ – ตอนที่ 4 เปิด swap + ล็อค IP Address

หลังจากเราเปิดบัญชี GCP และ เริ่มรัน Virtual Machine บน Compute Engine ตามขั้นตอนในตอนที่แล้ว มาในตอนนี้เราจะเริ่มต้นเปิด swap และล็อค IP Address กันครับ

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here